ประเด็นร้อน
จำคุก 15 ปีอดีตจัดหางานตาก-พวก ทุจริตเบิกจ่ายเงินบริหารคนต่างด้าว-ค่าโอทีเท็จ
โดย ACT โพสเมื่อ May 27,2019
- - ขอบคุณข้อมูลจาก สำนักข่าวอิศรา - -
เผยคำพิพากษา ศาลอุทธรณ์ภาค 6 ยื่นตามศาลชั้นต้น จำคุก 'บุญมี พันธงชัย' อดีตจัดหางานจว.ตาก พร้อมพวก 3 กระทง คนละ 15 ปี ทุจริตเบิกจ่ายเงินบริหารแรงงานต่างด้าว-ค่าโอทีเท็จ
สำนักข่าวอิศรารายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เผยแพร่คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 6 พิพากษายื่นตามศาลจังหวัดตาก สั่งลงโทษจำคุก นายบุญมี พันธงชัย อดีตจัดหางานจังหวัดตาก พร้อมพวก ประกอบไปด้วย นายชูชาติ หรือชยชาติ นายวาสิทธิ์ แก้วพิกุล คนละ 15 ปี ส่วนนางสาวจตุพร บุญยัง จำเลยอีกรายรับโทษจำคุก 9 ปี 12 เดือน ในคดีที่ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด ทุจริตในการเบิกจ่ายงบประมาณประเภทเงินฝากค่าใช้จ่ายในการบริหารแรงงานต่างด้าว การเบิกจ่ายเงินยืม และเบิกเงินค่าทำงานนอกเวลาเป็นเท็จ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 147, 151 , 157 , 161 และ 162 ประกอบมาตรา 83 , 90 และ 91 ตั้งแต่เมื่อวันที่ 16 ก.ย.2557 ที่ผ่านมา
โดยศาลอุทธรณ์ภาค 6 พิพากษาว่า นายบุญมี พันธงชัย นายชูชาติ หรือชยชาติ นายวาสิทธิ์ แก้วพิกุล มีความผิดตามมาตรา 147 , 151 และ157 ประกอบมาตรา 83 นอกจากนี้ นายบุญมี พันธงชัย ยังมีความผิดตามมาตรา 162 ประกอบมาตรา 86 ขณะที่ นายชูชาติ หรือชยชาติ นายวาสิทธิ์ แก้วพิกุล มีความผิดตามมาตรา 162 ประกอบมาตรา 83
สั่งลงโทษจำคุกจำเลยทั้ง 3 ราย 3 กระทงๆ ละ 5 ปี รวมโทษจำคุกคนละ 15 ปี
ส่วน นางสาวจตุพร บุญยัง มีความผิดตามมาตรา 147 , 157 ,162 ประกอบ มาตรา 86 จำคุก 3 ปี 4 เดือน รวม 3 กระทง เป็นจำคุก 9 ปี 12 เดือน
สำหรับกฎหมายอาญามาตรา 147 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตน หรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต หรือโดยทุจริตยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงสี่แสนบาท
มาตรา 151 ระบุว่า "ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่รัฐ เทศบาล สุขาภิบาลหรือเจ้าของทรัพย์นั้น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสี่หมื่นบาท"
มาตรา 157 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
มาตรา 162 ระบุว่า ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ทำเอกสาร รับเอกสารหรือกรอกข้อความลงในเอกสาร กระทำการดังต่อไปนี้ในการปฏิบัติการตามหน้าที่ (1) รับรองเป็นหลักฐานว่า ตนได้กระทำการอย่างใดขึ้น หรือว่าการอย่างใดได้กระทำต่อหน้าตนอันเป็นความเท็จ (2) รับรองเป็นหลักฐานว่า ได้มีการแจ้งซึ่งข้อความอันมิได้มีการแจ้ง (3) ละเว้นไม่จดข้อความซึ่งตนมีหน้าที่ต้องรับจด หรือจดเปลี่ยนแปลงข้อความเช่นว่านั้น หรือ (4) รับรองเป็นหลักฐานซึ่งข้อเท็จจริงอันเอกสารนั้น มุ่งพิสูจน์ความจริงอันเป็นความเท็จ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินเจ็ดปี และปรับไม่เกินหนึ่งแสนสี่หมื่นบาท
#ร่วมเป็นคนไทยตื่นรู้สู้โกง
#ACTองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน